กำแพงเมืองดิยาบาเคอร์

หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ในตุรกี หลายคนอาจนึกถึงอิสตันบูลหรือคัปปาโดเกีย แต่ยังมีอีกหนึ่งจุดหมายที่ควรค่าแก่การเดินทางไปเยือน นั่นคือ กำแพงเมืองดิยาบาเคอร์ (Diyarbakır City Walls) หนึ่งในกำแพงเมืองที่ยาวและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี กำแพงแห่งนี้ไม่เพียงแต่มีความยิ่งใหญ่ด้านขนาด แต่ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมที่สืบทอดมานานนับพันปี

ความยิ่งใหญ่ของกำแพงเมืองดิยาบาเคอร์

กำแพงเมืองดิยาบาเคอร์มีความยาวรวมกว่า 5.5 กิโลเมตร ล้อมรอบเมืองเก่าที่เคยเป็นศูนย์กลางการปกครองและการค้าในอดีต ตัวกำแพงก่อสร้างด้วยหินบะซอลต์สีดำซึ่งหาได้จากภูมิประเทศใกล้เคียง ทำให้ตัวกำแพงดูแข็งแรงและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

หนึ่งในจุดเด่นของกำแพงคือหอคอยมากกว่า 80 แห่งที่กระจายอยู่ทั่วแนวกำแพง และประตูเมืองโบราณ 4 บานที่ยังคงหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ภาพสลักหินต่างๆ ที่ประดับบนกำแพงแสดงถึงอิทธิพลทางศิลปะจากหลากหลายอารยธรรม ไม่ว่าจะเป็นโรมัน ไบแซนไทน์ อาหรับ หรือออตโตมัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเมืองดิยาบาเคอร์ในฐานะศูนย์กลางของเส้นทางการค้าระหว่างตะวันออกกับตะวันตก

มรดกโลกที่ต้องห้ามพลาด

องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียน กำแพงเมืองดิยาบาเคอร์ และสวน Hevsel Gardens ให้เป็นมรดกโลกในปี 2015 เนื่องจากคุณค่าทางประวัติศาสตร์และการอนุรักษ์ภูมิทัศน์ธรรมชาติที่อยู่คู่กับเมืองมายาวนาน สวน Hevsel ถือเป็นแหล่งเกษตรกรรมสำคัญที่หล่อเลี้ยงผู้คนในเมืองมาแต่โบราณ และยังคงเป็นพื้นที่สีเขียวสำคัญของภูมิภาคนี้

นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่สามารถเดินชมแนวกำแพงเพื่อชมทัศนียภาพของเมืองและแม่น้ำ Tigris ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน บรรยากาศจะงดงามราวกับภาพวาด

เปิดประสบการณ์ใหม่กับทัวร์ตุรกีสู่ดินแดนตะวันออก

แม้เมืองดิยาบาเคอร์จะไม่ได้เป็นจุดหมายหลักของนักท่องเที่ยวทั่วไป แต่ในปัจจุบันได้เริ่มมี ทัวร์ตุรกี หลายเส้นทางที่เพิ่มเมืองแห่งนี้เข้าไปในแผนการเดินทาง เพื่อเปิดมุมมองใหม่ให้กับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับเสน่ห์ของตุรกีในแง่มุมที่แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชาวเคิร์ด ชมสถาปัตยกรรมโบราณ หรือดื่มด่ำกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ยังคงมีชีวิตชีวา

การเดินทางมายังเมืองนี้สามารถทำได้ทั้งทางเครื่องบินและรถไฟจากเมืองใหญ่ เช่น อังการาหรืออิสตันบูล อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่รองรับนักท่องเที่ยว เช่น โรงแรม พิพิธภัณฑ์ และร้านอาหารพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของรสชาติอันจัดจ้าน