ฉงชิ่ง
แหล่งท่องเที่ยวในนครฉงชิ่ง (Chonqing)
เป็นนครแห่งที่ 4 ที่มีฐานะเทียบเท่ามณฑลและขึ้นครงต่อรัฐบาลกลาง (อีก 3 นครคือ ปักกิ่ง เทียนจิน และเซี่ยงไฮ้) ฉงชิ่งเป็นเมืองท่าริมแม่น้ำแยงซีมาแต่โบราณ ถูกใช้เป็นฐานที่มั่นต่อต้านญี่ปุ่นสมัยจีนคณะชาติ ปัจจุบันเป็นเมืองอุตสาหกรรมหนัก เช่น เหล็กกล้า รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ฯลฯ ตัวเมืองตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำแยงซี และเจียหลิงเจียง แบ่งออกเป็น 3 เขต คือ เขตเหนือแม่น้ำ เขตกลางนคร และเขตใต้แม่น้ำ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเขา ถนนหนทางจึงคดเคี้ยวและชันมาก ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 เตาไฟของจีน (อีก 2 แห่งคือ อู่ฮั่นและนานจิง) เนื่องจากหน้าร้อนอุณหภูมิจะสูงมาก นอกจากนี้ฉงชิ่ง ยังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์จีน เพราะเป็นเมืองที่มีธรรมชาติสวยงามอีกด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวในฉงชิ่ง
หลัวฮั่นซื่อ (Luohan Si) วัดพุทธโบราณอายุประมาณ 1,000 ปี ตั้งอยู่ในวงล้อมของตึกสูงใจกลางเมืองเป็นที่เคารพสักการะของชาวเมือง ภายในพระพุทธรูปองค์ใหญ่ รูปปั้นดินเผา และหินแกะสลักที่รอดพ้นจากสมัยปฏิวัติวัฒนธรรมภายในวัดยังมีภัตตาคารมังสวิรัติบริการด้วย
อนุสรณ์สถานหงเหยียนชุน (Hongyan Cun) หรือหมู่บ้านผาแดง พิพิธภัณฑ์รำลึกถึงความร่วมมือระหว่างพรรคก๊กมินตั๋งและพรรคคอมมิวนิสต์จีนในการต่อต้านญี่ปุ่น เดิมเป็นบ้านของเศรษฐีแต่ได้ยกให้เป็นที่พักของกองทัพพรรคคอมมิวนิสต์จีน และที่พักของพรรคก๊กมินตั๋งซึ่งอยู่คนละด้าน โดยมีต้นหวงเจี่ยวเป็นเครื่องแบ่งเขต ในอาคารจัดเป็นห้องๆ มีรูปภาพและข้าวของเครื่องใช้ของบุคคลที่เคยมาปฏิบัติงานที่นี่ อาทิ โจวเอินไหล เติ้งอิ่งเชา เหมาเจ๋อตุง ต่งปี้อู่
หมู่บ้านจิตรกร อยู่ที่ถนนหัวหลงเฉียว เป็นหมู่บ้านที่รวมเอาจิตรกรมีฝีมือระดับชาติทางด้านต่างๆ เช่น ภาพพู่กันจีน ภาพสีน้ำ ภาพสีน้ำมัน ภาพพิมพ์ไม้ มารวมอยู่ด้วยกัน ผลิตงานจิตรกรรมส่งเข้าประกวดและจำหน่าย รายได้จะถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน เป็นของจิตรกรส่วนหนึ่ง ส่งให้รัฐบาลส่วนหนึ่ง และเข้ากองทุนหมู่บ้านอีกส่วนหนึ่ง
สะพาน เมืองฉงชิ่งมีสะพานข้ามแม่น้ำ 2 แห่ง ที่ใครมาเยือนเมืองนี้ต้องไปชมแห่งแรก เป็น สะพานข้ามแม่น้ำเจียหลิงเจีย ตรงบริเวณด้านตะวันตกของเขตกลางนคร เริ่มก่อสร้างเมื่อ ค.ศ. 1963 แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1966 เป็นสะพานยาว 150 สูง 60 เมตร อีกแห่งคือ สะพานข้ามแม่น้ำแยงซี หรือ ฉังเจียงตั้งอยู่ทางตอนใต้ สร้างแล้วเสร็จเมื่อ ค.ศ. 1981
ศาลาประชาชน สร้างขึ้นตามความริเริ่มของจอมพลเฮ่อหลง เพื่อใช้เป็นที่ประชุมสภาผู้แทนราษฏรและเป็นโรงละคร เริ่มก่อสร้างเมื่อ ค.ศ. 1951 แล้วเสร็จ ค.ศ. 1954 มีรูปแบบสถาปัตยกรรมคล้ายหอเทียนถานในปักกิ่ง แบ่งออกเป็นตึกกลาง ตึกใต้ และตึกเหนือ ลักษณะพิเศษอยู่ที่ส่วนกลางมีโครงสร้างคาเป็นเหล็กหนักถึง 286 ตัน ปัจจุบันเปิดบางส่วนเป็นโรงแรม
สวนสาธารณะ เมืองฉงชิ่งมีสวนสาธารณะหลายแห่ง บางแห่งเป็นสวนภายในอารามเช่น ผีผาซาน กงหยวน (Pipa Shan Gongyuan) ตั้งอยู่ปลายสุดของเมือง ซึ่งเป็นแหลมยื่นออกไประหว่างแม่น้ำ 2 สาย ที่สวนแห่งนี้มีศาลาหรือหอสูงที่สามารถชมวิวเมืองฉงชิ่งได้ทั้งเมือง สวนเอ๋อหลิ่ง ลักษณะเหมือนหัวห่าน เป่ยเวินฉวน กงหยวน เป็นสวนน้ำพุน้ำร้อนเชิงเขาจินหยุนซาน ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 55 กิโลเมตร มีสระน้ำร้อนขนาดใหญ่ที่จะแช่ตัวเฉยๆ หรือว่ายน้ำเลยก็ได้ ทางตอนใต้ของฉงชิ่งประมาณ 20 กิโลเมตร มีกลุ่มน้ำพุร้อนอีกแห่ง น้ำร้อนกว่า และบรรยากาศพลุกพล่านน้อยกว่าสวนทางเหนือ
ถ้ำหินสลักที่อำเภอต้าจู๋ ที่อำเภอต้าจู๋ ห่างจากตัวเมืองฉงชิ่งไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 160 กิโลเมตร มีถ้ำสลักหินอยู่ถึง 2 แห่ง คือที่ เขาเป่ยซาน ซึ่งถือกำเนิดจากไวจั่นจิง นายทหารเแห่งเมืองจางสู เขาได้สร้างป้อมปราการสำหรับเก็บอาวุธและเสบียงขึ้นที่บริเวณเขาไป่ซานนี้ ราว ค.ศ. 892 เขาได้สอนและแนะนำให้ทหารที่อยู่ใต้บังคับบัญชาทำงานแกะสลักพระพุทธรูปหิน จากนั้นก็มีการสลักพระพุทธรูปขึ้นเรื่อยๆ จนล่วงมา 250 ปี บริเวณนี้เต็มไปด้วยพระพุทธรูปกว่า 10,000 องค์ รวมทั้งพระรูปเจ้าแม่กวนอิมที่ได้สัดส่วนงดงามมาก จนช่างต่างขาติที่าได้เห็นขนานนามให้เป็น "วีนัสแห่งจีน"