แก่งคุดคู้
สัมผัสมนต์เสน่ห์ลำน้ำโขงแห่งเมืองเลย
หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติอันงดงามและวิถีชีวิตชุมชนอันอบอุ่น “แก่งคุดคู้” คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนจังหวัดเลย สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงที่มีชื่อเสียงเท่านั้น แต่ยังเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจอีกด้วย

แก่งคุดคู้ตั้งอยู่ในตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย มีลักษณะเป็นเกาะหินขนาดใหญ่ที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาเป็นช่วง ๆ ตามระดับของแม่น้ำโขง ชื่อ “คุดคู้” มีที่มาจากภาษาท้องถิ่น ซึ่งหมายถึง “คดเคี้ยว” อันเป็นลักษณะของลำน้ำโขงบริเวณนี้ที่มีการเปลี่ยนทิศทางและเกิดโขดหินมากมาย

หากว่ามาที่แอ่งคุดคู้ ก็จะเห็นรูปปั้นของนายพราน ตั้งอยู่ ซึ่งก็มีประวัติดังนี้
ประวัติและตำนานของพรานแสนภู
ตามตำนานพื้นบ้านเล่าว่า…
"ครั้งหนึ่งในอดีตกาล มีพญาควายยักษ์ตัวหนึ่งชื่อว่า “พญาควายเงิน” ซึ่งมีฤทธิ์มากและดุร้าย ได้บุกทำลายบ้านเมืองในแถบลุ่มแม่น้ำโขง สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว พญาควายตัวนี้มักจะวิ่งลงมาจากภูเขาเพื่อทำลายหมู่บ้านเป็นประจำ
วันหนึ่ง มี พรานผู้กล้า นามว่า แสนภู ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการยิงธนู ได้รับคำขอจากชาวบ้านให้ช่วยจัดการกับพญาควายเงิน พรานแสนภูจึงนำคันธนูใหญ่ไปดักซุ่มยิง ณ จุดที่เรียกว่า แก่งคุดคู้ บริเวณริมแม่น้ำโขงในปัจจุบัน
เมื่อพญาควายเงินมาถึงแก่ง พรานแสนภูก็ใช้ ธนูศักดิ์สิทธิ์ ยิงเข้าใส่กลางหน้าผากของพญาควายเงินจนล้มลงและแน่นิ่ง ร่างของพญาควายเงิน ตามตำนานได้กลายเป็นภูเขาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำโขง เรียกว่า ภูควายเงิน
และ บริเวณที่พญาควายทรุดตัวนั่งลงก่อนล้มตาย ก็กลายเป็นแก่งกลางน้ำ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “แก่งคุดคู้” คำว่า “คุดคู้” หมายถึงการคุกเข่าหรือนั่งย่อคล้ายสัตว์ที่กำลังจะหมดแรง

ครั้งหนึ่งในอดีตกาล มีพญาควายยักษ์ตัวหนึ่งชื่อว่า “พญาควายเงิน” ซึ่งมีฤทธิ์มากและดุร้าย ได้บุกทำลายบ้านเมืองในแถบลุ่มแม่น้ำโขง สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว พญาควายตัวนี้มักจะวิ่งลงมาจากภูเขาเพื่อทำลายหมู่บ้านเป็นประจำ
วันหนึ่ง มี พรานผู้กล้า นามว่า แสนภู ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการยิงธนู ได้รับคำขอจากชาวบ้านให้ช่วยจัดการกับพญาควายเงิน พรานแสนภูจึงนำคันธนูใหญ่ไปดักซุ่มยิง ณ จุดที่เรียกว่า แก่งคุดคู้ บริเวณริมแม่น้ำโขงในปัจจุบัน เมื่อพญาควายเงินมาถึงแก่ง พรานแสนภูก็ใช้ ธนูศักดิ์สิทธิ์ ยิงเข้าใส่กลางหน้าผากของพญาควายเงินจนล้มลงและแน่นิ่ง ร่างของพญาควายเงิน ตามตำนานได้กลายเป็นภูเขาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำโขง เรียกว่า ภูควายเงิน และ บริเวณที่พญาควายทรุดตัวนั่งลงก่อนล้มตาย ก็กลายเป็นแก่งกลางน้ำ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “แก่งคุดคู้” คำว่า “คุดคู้” หมายถึงการคุกเข่าหรือนั่งย่อคล้ายสัตว์ที่กำลังจะหมดแรง"

ในอดีต แก่งคุดคู้เป็นเพียงจุดแวะพักของชาวเรือที่ล่องไปตามแม่น้ำโขง ต่อมาด้วยทัศนียภาพอันงดงามและอากาศบริสุทธิ์ที่หายาก ทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นเทือกเขาฝั่งประเทศลาวได้อย่างชัดเจน
ไฮไลท์ของแก่งคุดคู้
หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของการมาเที่ยวแก่งคุดคู้คือการได้นั่งชมพระอาทิตย์ตกที่ริมแม่น้ำโขง บรรยากาศเงียบสงบและลมเย็น ๆ ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกผ่อนคลายและเต็มไปด้วยความสุข นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมล่องเรือชมแม่น้ำโขงที่ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะช่วงน้ำลดในฤดูแล้ง ซึ่งสามารถเห็นโขดหินรูปร่างแปลกตาโผล่พ้นน้ำขึ้นมาอย่างชัดเจน

อีกหนึ่งความพิเศษของที่นี่คือ “ร้านค้าและของกินพื้นถิ่น” ที่เรียงรายอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มรสอาหารท้องถิ่น เช่น ส้มตำปลาร้า ปลาน้ำโขงทอด และข้าวจี่ร้อน ๆ ที่หอมกรุ่นจากเตาถ่าน รวมถึงซื้อของฝากจากชาวบ้าน เช่น ผ้าทอมือและผลิตภัณฑ์จักสาน
ใกล้กับแก่งคุดคู้ยังมีจุดท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดอย่าง “ถนนคนเดินเชียงคาน” ซึ่งเต็มไปด้วยบ้านไม้โบราณ คาเฟ่น่ารัก และบรรยากาศย้อนยุค ที่นี่คุณสามารถเดินเล่น ถ่ายรูป และเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวเชียงคานได้อย่างเต็มที่
การเดินทางมาแก่งคุดคู้นั้นสะดวกมาก จากตัวเมืองเลยใช้เวลาขับรถประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เหมาะสำหรับทั้งนักท่องเที่ยวแบบครอบครัว คู่รัก หรือกลุ่มเพื่อนที่ต้องการพักผ่อนในบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงาม หากคุณกำลังวางแผนเดินทางกับ ทัวร์เลย อย่าลืมบรรจุแก่งคุดคู้ไว้ในโปรแกรม เพราะที่นี่จะมอบประสบการณ์อันแสนประทับใจให้คุณอย่างแน่นอน
แก่งคุดคู้ไม่ใช่เพียงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แต่ยังเป็นจุดที่ผสานวัฒนธรรม วิถีชีวิต และความงดงามของแม่น้ำโขงไว้อย่างกลมกลืน หากมีโอกาสได้มาเยือนเมืองเลย อย่าลืมแวะมาใช้เวลาสงบ ๆ ริมน้ำ พักผ่อนใจ และเก็บความทรงจำดี ๆ กลับไปจากแก่งคุดคู้